แม้ว่าประเทศไทยจะผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปแล้ว แต่ทว่าก็ยังมีเชื้อโรคชนิดอื่นๆ ที่เป็นตัวก่อโรคอันตรายร้ายแรงได้เช่นกัน การดูแลรักษาความสะอาด ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรมองข้าม รวมทั้งการทำความสะอาดรถยนต์ด้วย ยิ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ฝนตกบ่อยและตกนอกฤดูฝน หลายคนอาจจะต้องใช้รถใช้ถนนในช่วงที่ฝนตกเป็นประจำ ซึ่งหากว่าเหยียบคราบน้ำหรือคราบสกปรกต่างๆ แล้วอาจจะต้องเข้ามาในรถต่อ สิ่งสกปรกก็จะเข้ามาอยู่ที่พื้นพรมได้อย่างง่ายดายอย่างแน่นอน ซึ่งการดูแลที่ปูพื้นรถยนต์มีอะไรบ้าง มาดูพร้อมๆ กัน
1.รักษาความสะอาดของรองเท้า
สำหรับใครที่อยากปกป้องที่ปูพื้นรถยนต์ของคุณให้ปราศจากฝุ่นหรือสิ่งสกปรก ควรจะกำจัดสิ่งสกปรกก่อนจะขึ้นมาบนรถ ไม่ว่าจะเป็นคราบโคลน กรวด ทราย หิน หมากฝรั่ง เพื่อให้ติดมากับเท้าอย่างน้อยที่สุดก่อนที่จะก้าวขึ้นรถยนต์ การกำจัดสิ่งสกปรกก่อนจะขึ้นรถ จะลดเวลาในการซักพรมปูพื้นได้แบบเห็นผลชัดเจน
2.ดูดฝุ่นเป็นประจำ
สำหรับใครที่คิดว่าพรมปูพื้นรถของคุณมีเศษทราย ดินและหินต่างๆ รวมถึงสิ่งสกปรกติดอยู่มากเกินไป ควรจะปัดฝุ่นหรือดูดฝุ่นอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือจะนำรถไปที่ร้านคาร์แคร์เพื่อให้ทางร้านดูดฝุ่นให้ก็ได้เช่นกัน ควรเลือกร้านที่สามารถดูดฝุ่นได้ทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นเปียกหรือฝุ่นแห้งก็ตามที
3.ใช้แผ่นยางพลาสติกเพื่อรอง
การเลือกแผ่นยางพลาสติกมารองพรมปูพื้นรถอีกชั้นหนึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของพรมได้เป็นอย่างดี โดยแผ่นยางพลาสติกจะสามารถโดนน้ำได้ และสามารถนำกรดหรือเศษดินมาเททิ้งได้แบบง่ายดาย ใช้น้ำล้างได้ง่ายแม้จะไม่สวยเท่าใด แต่ทว่าสามารถปกป้องพรมปูพื้นรถของคุณได้เป็นอย่างดี หรือหากว่าต้องการความสวยงามกว่าเดิม จะเลือกเป็นพรมกระดุมที่ตัดเย็บให้เข้ารูปกับรถก็ได้เช่นกัน โดยพรมจะผลิตจากพีวีซีคุณภาพสูง และราคาแพงพอสมควร ทว่าคุณสมบัติการปกป้องโดดเด่นอย่างยิ่ง
4.ถอดมาซักจะดีที่สุด
หากว่าคุณไม่ได้ทำความสะอาดบ่อย แนะนำว่าให้เลือกถอดออกมาเพื่อซักจะดีที่สุด เพราะบางครั้งเจ้าของรถอาจจะเผลอเหยียบน้ำสกปรก หรือเหยียบเศษฝุ่น เศษกรวดก็ได้ ซึ่งกรณีนี้อาจทำให้เกิดปัญหาได้ในอนาคตนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าการทำความสะอาดที่ปูพื้นรถยนต์ หรือวิธีการดูแลไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากว่าคุณใส่ใจดูแลตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ปล่อยให้เกิดคราบสกปรกนานเกินไป ก็มั่นใจได้ว่าพรมของคุณจะมีอายุที่ยืนยาวอย่างแน่นอน